Incoterms หรือ International Commercial Terms เป็นความรู้พื้นฐานที่ควรทราบและเกี่ยวข้องกับการส่งสินค้าหรือพัสดุระหว่างประเทศ (การส่งของไปต่างประเทศ) เนื่องจากเป็นเงื่อนไขในการขนส่งหรือส่งมอบสินค้าระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเป็นขอบเขตของความรับผิดชอบและค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะเกิดขึ้น ซึ่งสำหรับ Incoterms นั้น โดยปกติแล้วจะมีการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบทุก ๆ 10 ปี เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการค้า ซึ่งฉบับล่าสุดก็คือ Incoterms 2020 โดยมีการเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2020 เป็นต้นมา โดยมีกฎระเบียบทั้งหมด 11 กฎ ดังต่อไปนี้
EXW - Ex Works
หรืออาจจะใช้คำที่รู้จักกันดีก็คือ “ราคาหน้าโรงงาน” ซึ่งเทอมการส่งมอบในรูปแบบนี้ ทางผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบเฉพาะตัวสินค้า ณ จุดที่วางขายสินค้าเท่านั้น เช่น ครบตามคำสั่งซื้อ มีคุณภาพตามมาตรฐาน และไม่มีความเสียหาย โดยผู้ขายมีการส่งมอบสินค้าให้กับผู้ซื้อที่หน้าร้าน หรือหน้าโรงงาน โดยไม่ต้องขนสินค้าขึ้นยานพาหนะที่มารับ
ซึ่งหลังจากมีการส่งมอบสินค้าเรียบร้อยแล้ว ผู้ซื้อจะเป็นผู้รับผิดชอบในความเสี่ยงต่าง ๆ หลังจากนี้ทั้งหมด
FCA – Free Carrier
จะเป็น Terms ที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า ผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นรวมถึงค่าขนส่งจนถึงสถานที่ส่งมอบสินค้าที่ทางผู้ซื้อกำหนด เช่น โกดังที่ท่าเรือหรือสนามบิน เป็นต้น ซึ่งผู้ขายยังต้องรับผิดชอบในเรื่องของการส่งออก รวมไปถึงการชำระค่าภาษีอากรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับพิธีการส่งออกด้วย และเมื่อสินค้าถูกส่งมอบแล้ว ผู้ซื้อจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งทางเครื่องบินหรือเรือ และรับความเสี่ยงทั้งหมดหลังจากได้มีการส่งมอบสินค้าเรียบร้อยแล้ว
FAS – Free Alongside Ship
สำหรับเทอมนี้จะมีเพิ่มเติมจาก FCA คือ ผู้ขายจะรับผิดชอบจนถึงสถานที่ที่เป็นกาบเรือ ท่าเรือที่ผู้ซื้อกำหนด หรือสนามบินในฝั่งต้นทางเท่านั้น ส่วนของค่าใช้จ่ายในการนำสินค้าขึ้นพาหนะ ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า รวมถึงความเสี่ยงภัยในการนำของขึ้นพาหนะและระหว่างการขนส่ง จะตกเป็นภาระของผู้ซื้อในทันทีที่สินค้าถูกส่งมอบ และผู้ซื้อยังต้องรับผิดชอบในการทำพิธีการส่งออกด้วย
FOB – Free On Board
เงื่อนไขนี้ ทางผู้ขายจะสิ้นสุดภาระก็ต่อเมื่อผู้ขายได้ส่งมอบสินค้าขึ้นไปบนเรือสินค้าหรือเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว โดยผุ้ขายยังคงรับผิดชอบเหมือนกับ incoterms แบบ FAS ทุกอย่าง มีเพิ่มเติมขึ้นมาแค่กรณีการขนสินค้าขึ้นไปบนยานพาหนะนั่นเอง
CFR – Cost and Freight
เงื่อนไขสำคัญที่เพิ่มเข้ามาสำหรับเทอมนี้ก็คือ ผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าด้วยนั่นเอง ส่วนค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงภัยในการขนส่งสินค้าจะเป็นภาระของผู้ซื้อในทันทีที่ของผ่านกาบระวางเรือหรืออยู่ระหว่างการเดินทาง
CIF – Cost, Insurance & Freight
เป็นเงื่อนไขที่มีค่าประกันภัยขนส่งสินค้าเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยผู้ขายจะต้องรับผิดชอบเหมือนกับ CFR ทุกอย่าง เพิ่มเติมคือจะต้องจ่ายค่าประกันภัยด้วยนั่นเอง เพื่อคุ้มครองสินค้าให้แก่ผู้ซื้อด้วย ซึ่ง incoterms รูปแบบนี้ก็เป็นที่นิยมในการเลือกใช้ ในกรณีที่สินค้ามีมูลค่าสูง
CPT – Carriage Paid To
เงื่อนไขนี้จะคล้ายกับ CFR Terms แต่ทางผู้ขายจะมีภาระหน้าที่ที่จะต้องส่งมอบสินค้าให้ถึงมือผู้ซื้อในสถานที่ปลายทางที่ระบุไว้ ซึ่งโดยปกติจะส่งถึงมือผู้ให้บริการขนส่งฝั่งปลายทาง หรือ “ผู้รับขนส่ง” ซึ่งภาระของผู้ขายจะสิ้นสุดเมื่อสินค้าถูกส่งมอบไปสู่บริษัทขนส่งนั่นเอง
CIP – Carriage and Insurance Paid To
เทอมสำหรับการส่งสินค้าระหว่างประเทศในเงื่อนไขนี้ ผู้ขายจะมีภาระเหมือนกับ CPT terms แต่จะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าประกันภัยขนส่งสินค้าด้วย เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงภัยในการขนส่งสินค้า
DPU – Delivered At Place Unloaded
ผู้ขายทำการส่งมอบสินค้า โดยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงทั้งหมดไปจนถึงการขนถ่ายสินค้าลงจากยานพาหนะ ซึ่งใน Incoterms ฉบับก่อนหน้าปี 2020 DPU จะเรียกว่า DAT (Delivered At Terminal)
DAP – Delivered At Place
ก่อนหน้านี้ เทอมนี้จะมีชื่อเรียกว่า DDU (Delivered Duty Unpaid) ซึ่งก็คือทางผู้ขายจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าไปจนถึงสถานที่ที่ส่งมอบปลายทางที่ระบุไว้ภายใต้สัญญารับขนส่ง จะยกเว้นแค่เพียงภาษีและพิธการนำเข้า
DDP – Delivered Duty Paid
สำหรับเทอมนี้ ถือว่าเป็น Incoterms ยอดฮิตในการส่งสินค้าระหว่างประเทศ ที่เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน เพราะเป็นเงื่อนไขที่ทางผู้ขายจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างเลยที่สำคัญคือค่าพิธีการศุลกากรขาเข้าและค่าภาษีขาเข้า อีกทั้งทางผู้ซื้อก็จะชื่นชอบ DDP เป็นพิเศษด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ว่าจะมี incoterms ที่ค่อนข้างหลากหลาย แต่ปัจจัยหลักของการเลือกใช้ก็เกี่ยวข้องกับส่วนของภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นกับฝั่งผู้ซื้อหรือผู้ขายนั่นเอง ดังนั้นหากคุณเข้าใจและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย ก็จะส่งผลดีกับทั้งสองฝ่าย